วันอาทิตย์ที่ 17 สิงหาคม พ.ศ. 2557

ผีซ่าส์กับฮานาดะ


ต้องบอกก่อนว่า ระยะหลังๆ มันเริ่มเบื่อๆ ไม่ค่อยอยากหาการ์ตูนมาดูสักเท่าไหร่
เพราะเหตุผลบางอย่าง
แต่เมื่อไม่นานมานี้ ได้เปิดไปเจอ เรื่อง' ผีซ่าส์กับฮานาดะ'
ความจริงเราเคยดูการ์ตูนเรื่องนี้มาแล้วรอบหนึ่ง แต่เหมือนมันอยากย้อนความทรงจำ
ก็เลยลองดูใหม่ตั้งแต่ต้นจนจบอีกรอบ

เป็นการ์ตูนใสๆ ไม่มีพิษภัย และมีเรื่องราวซึ้งๆ ตลอดทั้งเรื่อง
ไม่อยากจะบอกเลย  ว่าเราร้องไห้เป็นวรรคเป็นเวร มาก5555

เรื่องของ อิจิโระ เด็กชายวัยกำลังแก่น แถมแสบซะจนคนในบ้านปวดหัวอยู่บ่อยๆ
ที่จู่ๆ หลังจากประสบอุบัติเหตุ ก็ดันเห็น วิญญาณได้ซะงั้น
ทีนี้พวกวิญญาณที่ต่างมีเหตุเดือดร้อนก็พากันมาไหว้วานให้ อิจิโระ ช่วย
เรื่องราวต่างๆก็เริ่มขึ้นด้วยเหตุนี้ =D  

เรื่องนี้มีมังงะด้วย แต่เรายังไม่ตามอ่านเพราะจากการตะบี้ตะบันดู อนิเมะ นี่ก็ทำตาบวมไปหลายแล้ว

นี่เป็นลิงค์ที่ดูได้จนจบเลยนะค่ะ 




หลงรักความมีน้ำใจของ อิจิโระ เข้าเต็มๆเลยค่ะ ><










แม้จะเกรียน และ กวนแค่ไหน
แต่น้ำใจของอิจิโระนี่ น่านับถือจริงๆ
หลายๆครั้งที่คอยช่วยเหล่าวิญาณแล้วตัวเอง
ต้องเดือดร้อนทีหลัง แต่อิจิโระก็เพียงแค่บ่น
พอมีปัญหามาใหม่ ก็ช่วยอยู่ร่ำไป

จะบอกว่าตอนตลกที่สุดสำหรับเราก็ตอน ครูสอนดีดลูกคิดนี่ล่ะค่ะ
= =; คือ จะเป๊ะยันตอนจบเลยเหรอคะ คุณครู

 แต่ตอนซึ้งๆนี่ เราเลือกเรื่องไหนให้เป็นที่สุดไม่ได้จริงๆ
เพราะมันซึ้งคนละแบบ ^^ 












o
พอดูแล้วก็ได้คิดถึงตอนเด็กๆของตัวเอง
ปีนต้นไม้ ปั่นจักรยาน เก็บหมากขบ
หกล้ม เลอะเทอะ โดนตีบ่อยๆ
แต่ก็นับเป็นช่วงชีวิตที่พูดได้อย่างเต็มปากมากที่สุดค่ะ
ว่ามีความสุขมากกกกกกกก


สุขทั้งในตอนนั้น
สุขทั้งในตอนนี้ 
ยามได้นึกถึง
^^  

วันอาทิตย์ที่ 18 พฤษภาคม พ.ศ. 2557

แนะนำ ภาพยนตร์อนิเมชั่น

ตอนนี้ก็จะมาแนะนำอนิเมะแบบภาพยนตร์
ซึ่งแน่นอน คงคอนเซปต์รักเป็นหลัก ก็ไม่เข้าใจตัวเองเหมือนกันว่าจะชอบ
เรื่องรักๆใคร่ๆ อะไรขนาดนั้น แต่บางเรื่องที่ปนๆมาก็ไม่ค่อยเน้นเรื่องรักมากนัก
เอาเป็นว่า เรามาเริ่มกันเลยค่ะ

Howl's Moving Castle ปราสาทเวทมนตร์ของฮาวล์

ดูหลายรอบแล้วเรื่องนี้
ฝีมือการกำกับของผู้กำกับชาวญี่ปุ่น ฮายาโอะ มิยาซากิ
โดยค่าย Studio Ghibli
ซึ่งค่ายนี้ เราว่าลายเส้นเป็นอะไรที่ smooth และสวยมาก
เป็นค่ายที่ทำการ์ตูนออกมาได้สนุกมาก

ถ้าจะกล่าวถึงเรื่องย่อ ก็คงพูดอะไรไม่ได้มาก
ถ้าพูดมาก ไปดูแล้วมันจะไม่สนุก 555
((แต่บทความอื่นๆ นี่ มันเป็นอนิเมะไง
 มันก็มีอะไรให้กล่าวถึงในแบบที่คนไปดูทีหลังแล้วจะไม่ค่อยเสียอรรถรส
 แต่หนังแบบนี้ มันแค่ 2 ชม. มันพิมพ์มากไม่ได้ ))

สาวน้อยช่างทำหมวกโดนสาปให้กลายเป็นหญิงชรา
และบังเอิญได้เข้าไปอยู่ในปราสาทของพ่อมดฮาวล์
และเรื่องราวก็ดำเนินไป


ย่อแบบย่อ...ย่อแบบที่ไม่พิมพ์เลยอาจดีกว่า 5555

เอาเป็นว่า เป็นเรื่องที่สนุก ครบรส ภาพสวย ดูได้อิ่มๆ 
แนะนำค่ะ ^^




ต่อกันเรื่องที่สอง
From Up on Poppy Hill ป๊อปปี้ ฮิลล์ ร่ำร้องขอปาฏิหาริย์


มะสึซากิ ยูมิ นางเอกที่เสียพ่อไปในสงคราม 
ทุกๆเช้า เธอจะต้องชักธงที่อยู่หน้าบ้าน เพื่อส่งข้อความถึงพ่อเธอบนสวรรค์
คาซามะ ชุน บรรณาธิการของชมรมหนังสือพืมพ์โรงเรียน
ก็ได้เขียนบทความเกี่ยวกับ ธงที่ชักขึ้นทุกวัน ทำให้ยูมิ เริ่มสนใจในตัว ชุน
และเราก็คิดว่า ชุนเองก็สนใจยูมิ อยู่ไม่น้อย

เป็นเรื่องราวที่มีดราม่าหน่อยๆ มีเรื่องของการรวมพลังกันภายในโรงเรียน
เพื่อประท้วงการทำลายอาคารที่รวบรวมแต่ละชมรมเอาไว้
สนุก และ ละเมียดละไม 
เศร้า แต่ สร้างรอยยิ้ม

คงเป็นคำนิยามที่เราอยากให้กับภาพยนตร์อนิเมชั่นเรื่องนี้


เรื่องที่สาม

PAPRIKA

เป็นเรื่องที่มีความรักเจือปนมาด้วยนิดหน่อย
แต่ที่ชอบเรื่องนี้ เพราะมันซับซ้อน มันซ่อนอะไรหลายๆอย่าง
เป็นการ์ตูนที่เราดูรอบเดียวจบ ไม่เข้าใจ 555
หากจะพูดเปรียบกับหนังก็คล้ายๆกับแนว INCEPTION
เรื่องย่อนี่เราจำไม่ได้แล้วค่ะ ดูมานานมาก
แต่จะบอกว่า สนุกมาก สำหรับคนที่ชอบอะไรลึกลับ
แต่อาจงงเล็กน้อย ถึงปานกลาง ไปค่อนข้างมาก
(การ์ตูนแนวอาร์ตๆ ในความเห็นของเรานะค่ะ)
แต่ภาพนี่ สวยเจิดจรัส สีสันคัลเลอร์ฟูล
ชอบมาก ตรงจุดนี้ 




555
ตอนนี้ก็กำลังจะสอบเป็นครั้งสุดท้ายของ summer ค่ะ
แต่พอรู้ตัวว่า เราไม่ได้อัพแนะนำอนิเมะมานานหลายชาติแล้ว
เลยต้องปั่น ตอนนี้ออกมา

ลากันไปก่อนค่ะ วันนี้ :D












Maid sama (T^T) เมื่อตอนสุดท้ายของมังงะออกมา


อาจเป็นตอนที่ไม่ได้เข้ามาแนะนำเมะใหม่ๆแต่เป็นการบันทึกความทรงจำเกี่ยวกับอนิเมะที่เรายังชอบแอบกลับไปเปิดดูอยู่เรื่อยๆ
ดูเกิน 10 รอบได้แล้วมั้ง เรื่องนี้เนี่ย

บอกก่อนว่า มังงะ Maid sama ได้ออกตอนจบที่สุดแสนจะแฮปปี้เอนดิ้งมาให้ผู้อ่านที่น่ารักได้อ่านไปได้สักพักแล้ว แต่เราก็ยังไม่ได้มีเวลาเขียนบรรยายความรู้สึกหลังจากอ่านจบลงในบล็อกสักที

จำได้ว่าวันนั้นเมื่อหลายเดือนที่แล้ว ก็เปิดเข้าไปดูสถานะอัพเดท ตอนใหม่ๆของ maid sama ตามปกติ
แล้วสถานะที่ขึ้นก็บอกว่า [ completed ] ความรู้สึกในใจตอนนั้น มันสั่นไปหมด มันทั้งดีใจ เสียใจ ปนเปไปมา
ใจหนึ่งก็รู้สึกดีนะที่มันจบลงสักทีหลังจากติดตามมานาน แต่อีกใจก็รู้สึกว่าอย่าเพิ่งจบเลยได้ไหม
ยังอยากเห็นอุซุยแหย่มิซากิแบบนี้ต่อไปเรื่อยๆ อยากเห็นทุกคนบนหน้ากระดาษเหมือนเดิม
แต่งานเลี้ยงย่อมมีวันเลิกรา เมื่อการ์ตูนที่เราชอบเดินทางมาจนถึงตอนจบ
หน้าที่ผู้อ่านอย่างเรา ก็คงต้องปรบมือกับฉากจบที่ประทับใจมากที่สุดฉากนี้


ผ่านไป 10 ปี ทั้งคู่ก็ได้แต่งงานกันนนนนน
T^T จำได้ว่าน้ำตาคลอเบ้าตอนอ่านฉากนี้ ไม่ได้เว่อร์นะ แต่มันเหมือนการ์ตูนเรื่องนี้เป็นกำลังใจให้เรา
ในจังหวะชีวิตที่ย่ำแย่  เหมือนในเรื่องมิซากิพยายามที่จะทำให้ดีในทุกเรื่อง พยายามเป็นอย่างที่ทุกคนคาดหวังอยากให้เป็น แม้จะเหนื่อยแค่ไหน แต่มิซากิไม่เคยละความพยายาม
ไม่เคยนั่้งตีโพยตีพาย ว่าทำไม ชีวิต มันยากลำบาก บลาๆๆ  เธอก็แค่พยายามให้ดีที่สุด เท่าที่เธอจะทำได้

ส่วนทางด้านอุซุยเอง ก็เป็นเหมือนเจ้าชายในฝันที่ทำให้เราใจเต้นทุกครั้งเวลาสองคนนี้อยู่ด้วยกัน 555
มังงะเรื่องนี้ไม่มีด้านไหนสมจริง ไม่มีอะไรที่ทำให้เราเชื่อว่าอุซุยจะมีอยู่จริงบนโลกใบนี้ (คือมันก็เว่อร์ตั้งแต่กระโดดตึกเรียนเพื่อคว้ารูปมิซากิในชุดเมด แล้วไม่ตายนั่นแหละค่ะ) แต่เราชอบนะ ชอบที่จะเห็นอะไรแบบนี้ทุกครั้ง ทุกอย่างที่อุซุยเป็น เหมือนรวบรวมความเป็นพระเอกในแบบเด็กสาวใฝ่ฝัน
รูปหล่อ รวย เก่งทุกด้าน ทั้งงานรบ งานบ้าน และการเรียน

เป็นการ์ตูนรัก แบบ รักหวานแหววแต่ไม่เลี่ยน ใน คหสต.นะ มันเป็นรสชาติที่พอดีและทำให้ชีวิตมีสีสันมาก หากคุณได้ลองเปิดมันอ่าน หรือเปิดเมะดู
การ์ตูนสำหรับเราไม่เคยไร้สาระ  แม้เพื่อนๆจะมองว่าเราค่อนข้างบ้าการ์ตูนทั้งๆที่โตจนป่านนี้
แต่เรากลับมองว่าการดูการ์ตูนเป็นการกลับไปเป็นเด็กอีกครั้ง กลับไปนั่งยิ้ม นั่งหัวเราะกับเรื่องราวมากมาย ที่ผู้เขียนถ่ายทอด บางคราวก็เหมือนคนบ้า และเมื่อเรามองย้อนกลับไป
การ์ตูนก็อาจเป็นบันทึกเรื่องราวในชีวิตอีกแบบเหมือนกัน

แต่เรื่องที่น่าเศร้าใจสำหรับเราก็คือ เรื่องนี้มันพิมพ์ในไทยช้ามาก = =; เราไม่ได้ตามเก็บเลยสักเล่ม
คาดว่าอาจจะให้แฟนซึ่งกำลังไปญี่ปุ่นเมษาปีหน้า หิ้วกลับมาให้
แม้จะเป็นภาษาญี่ปุ่นซึ่งเราอ่านไม่ออกเลยก็ตาม 555

ถ้าเอาอย่างละเอียด การ์ตูนเรื่อง Maid sama หรือในชื่อไทย สาวเมดผจญหนุ่มสุดป่วน
มีอนิเมะทั้งหมด 27 ตอน ส่วนมังงะมีทั้งสิ้น 85 ตอน เริ่มพิมพ์มาตั้งแต่ปี 2006 จนถึงตอนนี้ปี 2013  รวมเวลาทั้งหมด 8 ปีในการเดินทางของเรื่องนี้
ส่วนอาจารย์ผู้แต่งคือ Fujiwara  Hiro
ซึ่งอาจารย์แกก็มีบล็อกของอาจารย์โดยตรงอยู่ คือ http://zero.mods.jp/ ใครสนใจก็ลองคลิ๊กไปดูได้นะค่ะ

แนะนำตัวละครกันอีกรอบ เย้!!!





misaki ayuzawa
ประธานนักเรียนสาวสวย โหด และเกลียดผู้ชายเข้ากระดูกดำ เนื่องจากภูมิหลังทางด้านครอบครัว
เก่งทั้งการเรียน กีฬา แต่ไม่ได้เรื่องด้านการทำอาหาร
เนื่องจากปัญหาการเงินของทางบ้าน
เธอจึงต้องทำงานเป็นสาวเมดที่ เมดคาเฟ่ของเมืองข้างๆ เพื่อหารายได้พิเศษ
อีกทั้งยังต้องปิดบังไม่ให้ใครรู้ เพราะกลัวภาพพจน์ที่เพียรสร้างขึ้นมาจะเสียหาย



usui takumi 
ชายหนุ่มสุดหล่อ แสนเพอร์เฟกต์ สเปคสาวน้อยสาวใหญ่
ผู้มากด้วยความสามารถ แต่พ่วงนิสัยแปลกประหลาด
และความลับเกี่ยวกับครอบครัวของตนเอง
ชอบตามติดมิซากิจังไปทุกที่ พร้อมชอบบอกใครๆว่าตัวเองเป็น stalker = =;
สนใจในตัวมิซากิมาก ขนาดตามไปเฝ้าที่ร้านเมดลาเต้ เป็นประจำ
(ในเมะ เรื่องราวที่ไม่ได้กล่าวถึงอุซุยมีเยอะมาก แนะนำให้ใครที่หลงใหล
พ่อหนุ่มมาดกวนสุดหล่อคนนี้ตามไปอ่านในมังงะด้วยนะค่ะ รับประกันความสนุกจ้า)



Yukimura Shouichirou

รองประธานนักเรียน นิสัยใจดี อ่อนโยน และบอบบาง
 ที่ทำให้สาวปกติ ไม่เคยจิ้นวายอย่างเรา
ต้องเผลอจิ้นตาม 555 
ชอบโดนแกล้งให้แต่งตัวเป็นผู้หญิงเสมอๆ แต่แหม แต่งออกมาแล้วสวย
ก็แต่งๆไปเหอะ ยูคิมูระ >.,< 




hanazono sakura

หนึ่งในเพื่อนสนิทของมิซากิจัง
สวย น่ารัก แถม ป็อปในหมู่นักเรียนชาย 
หากจะเรียกว่า ดาวโรงเรียนเซย์กะก็คงไม่ผิดนัก 
เป็นคนที่มีจินตนาการล้ำเลิศมาก 555 สังเกตได้จากตอนที่
พวกมิซากิแอบตามอุซุยไป เพื่อสืบว่า อุซุยทำอะไรหลังเลิกเรียน



Kaga Shizuko

เพื่อนสนิทอีกคนของมิซากิ เป็นสาวแว่นที่เงียบขรึม
แต่หากโมโหขึ้นมา แล้วได้โวยวาย 
ใครๆต่างก็ต้องยอมเธอคนนี้ 
(จะบอกว่าตอนจบในมังงะ ชิซูโกะของเราแทบไม่เปลี่ยนแปลงไปเลยสักนิด 555)


Hyoudou Satsuki

เจ้าของร้านเมดลาเต้ ผู้เพ้อฝัน และรักความ Moeeeeeeee เป็นที่สุด
โมเอ้ ในที่ความหมายของเราคือ  น่าร๊ากกกกกกกก 
เวลาเจ้าของร้านโมเอ้แต่ละที ดอกไม้นี่ กระจายเต็มฉากหลัง
นับว่าเป็นอีกตัวละครที่สร้างสีสันให้กับเรื่องนี้เลยทีเดียว



Hyoudou Aoi

หลานชายของเจ้าของร้านเมดลาเต้ ที่ชอบแต่งตัวเป็นผู้หญิง
แถมแต่งได้สวยกว่าผู้หญิงซะอีก เป็น Net idol ที่หนุ่มๆหลายคนฝันถึง
และแน่นอน หนุ่มๆเหล่านั้นไม่มีใครรู้ความจริงว่า อาโออิจัง เป็นผู้ชาย
555 อาโออิ เป็นตัวละครที่เรามองยังไงก็ไม่รู้สึกถึงความวาย
คือ ไม่ใช่เพราะดูไปจนถึงตอนที่รู้ว่าหนุ่มน้อยคนนี้ชอบมิซากิจังหรอกนะ
แต่มันรู้สึกแต่แรกๆแล้วว่า อาโออิแค่ชอบแต่งหญิงเป็นงานอดิเรก
แต่ไม่ได้อยากเป็นผู้หญิง แล้วพอในมังงะตอนจบ
คู่ที่ทางผู้เขียนเลือกให้อาโออิจังก็ทำเรา เงิบ ไปเล็กน้อย
ก็ไม่เล็กน้อยนะ เราร้อง เฮ้ย! เลยทีเดียว ...;D 




Hinata Shintani

ชินทานิคุง ผู้น่าสงสารเบาๆ
รักมิซากิจังตั้งแต่เด็กๆ แต่เพราะต้องย้ายโรงเรียน
เลยขาดการติดต่อไป สมัยเด็กอ้วนมาก เนื่องจากกินจุ = =;
พอกลับมาตามหามิซากิจัง ก็ผอมลงจนมิซากิจำไม่ได้
แต่เสียใจด้วยนะ ชินทานิ หัวใจของมิสะจังเป็นของอุซุยไปซะแล้ว โฮะๆๆ
(หวงมิซากิ แทนอุซุยมาก จริงๆนะ 555)
แต่สาวที่คู่กับชินทานิเป็นอะไรที่เราฟินมาก
ในเมะ ก็แอบใบ้ๆแล้วล่ะนะ แต่ในมังงะ ฟินมากกกก
ลองไปหาอ่านดูนะค่ะ



Suzuna Ayuzawa

น้องสาวของมิซากิ รักการชิงโชคเป็นที่สุด
(และก็ถูกรางวัลบ่อยซะด้วย)
มีสกิลการทำอาหารขั้นเทพ และรู้จักที่ขายอาหารราคาถูก
เวลาสองพี่น้องคุยกันนี่ ฮามาก จริงๆค่ะ
คือมิซากิจัง เหมือนพูดอยู่ฝ่ายเดียวซะมากกว่า





Sōtarō Kanō

คาโน่คุงงง ของยูคิมูระ เอ๊ย ไม่ใช่ล่ะ 555
แต่สองคนนี่ถึงแม้จะอยู่คนละชั้นปี
กลับสนิทกันมาก อันนี้เดาเอาจากการที่ชอบโผล่มาที่เดียวกันตลอด
คาโน่มีความสามารถพิเศษในการสะกดจิตคนอื่น
มิซากิจังก็โดนไปรอบหนึ่ง เพราะคาโน่ไม่อยากให้
ประธานทำการเชิญชวนนักเรียนหญิงมาเข้าโรงเรียนมากไปกว่านี้
=''= พ่อหนุ่มคนนี้ เขาเป็นโรคกลัวผู้หญิง เนื่องจาก ปมในอดีต
ไม่รู้จะฮาหรือสงสารดีนะ คาโน่
แต่ตอนที่มิซากิโดนสะกดจิตนี่ น่ารักมาก อุซุยมีอัดคลิปไว้ด้วยนะ
เหอๆๆ


เราเรียกสามคนนี้ ว่าแก็งสามแสบ
เป็นแก็งที่ตอนแรกไม่ชอบมิซากิจังเอามากๆ
เพราะด้วยความที่ประธานเราเคร่งครัดกับกฎภายในโรงเรียน
ทำให้ไอ้เจ้าสามคนที่ทั้งแต่งตัวไม่เรียบร้อย
มาสาย โดดเวรทำความสะอาด
โดนมิซากิจังด่าไปหลายรอบ แต่พอมาเจอกับมิซากิจัง
ในชุดเมดเท่านั้นล่ะ = =;
เปลี่ยนไปทันที
เป็นอีกสีสันให้กับเรื่องนี้ โผล่มากี่ทีๆ ก็ฮากระจาย
แต่นับถือในความพยายามของก๊วนนี้มาก
ที่ไปเฝ้ามิสะจังที่เมดคาเฟ่บ่อย พอๆกับอุซุยเลยทีเดียว


ฮ้า...
>w<
ขอบคุณการ์ตูนเรื่องนี้มากๆ
ที่เกิดขึ้นมาบนโลกใบนี้
ทำให้เราฟิน จิกหมอนขาดกระจุยไปร้อยใบ(เว่อร์มาก)
ทำให้เราขำ ในช่วงเวลาที่รู้สึกแย่กับชีวิต
ทำให้เราได้รู้ว่า การพยายามกับอะไรมากๆ
ยังไงก็ต้องมีวันประสบผลสำเร็จ(แต่ไม่นับตอนทำข้าวปั้นนะ มิซากิ 555)
ด้วยความรักและบ้าคลั่ง

XOXOXOXOXOXOXOXOXOXOXOXOXO